นครวาติกัน ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก

นครวาติกัน ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก : Vatican City - Holy seat of Christianity

วาติกัน เป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก รวมถึงเป็นที่พำนักของพระสันตะปาปาและที่ตั้งของคริสต์จักรแคทอลิกอีกด้วย

The world's smallest country, is home to the Pope and the Catholic church

นครวาติกันมีความสำคัญขึ้นมาหลังจากที่คริสต์จักรแคทอลิกได้กลายเป็นศาสนาของจักรวรรดิ์โรมันอย่างเป็นทางการ ในปี 326 โบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกาย Constantinian basilica ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก ณ บริเวณที่เป็นหลุมฝังศพของ เซนต์ ปีเตอร์ ซึ่งเป็นพระ 1 ใน 12 ที่พระเยซูเลือก

นครแห่งนี้เป็นที่พำนักของพระสันตะปาปาและเป็นเมืองหลวงของคริสต์ศาสนิกชน แม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมามากมาย แต่ตำแหน่งพระสันตะปาปาก็ไม่เคยได้รับการแตะต้อง จนกระทั่งในปี 1871 เมื่อโรมได้รับการประกาศให้เป็นเมืองหลวงของประเทศเกิดใหม่ คือ ประเทศอิตาลี จึงก่อให้เกิดคำถามในเรื่องของตำแหน่งพระสันตะปาปาในกรุงโรม

คำถามนี้ได้รับการแก้ไขในปี 1929 ในช่วงที่มุสโสลินีครองอำนาจ โดยสัญญาที่รู้จักกันในนาม Lateran Pact ซึ่งเป็นสัญญาที่ลงนามระหว่างรัฐบาลอิตาลี กับพระสันตะปาปา (ในนามของคริสต์จักรโรมันแคทอลิกโดยรับรองความเป็นเอกราชของคริสตจักร จึงเป็นต้นกำเนิดของประเทศที่เรียกว่า นครวาติกัน และในสัญญาเดียวกันนี้ได้ประกาศรับคริสต์ศาสนาแคทอลิกเป็นศาสนาประจำชาติของอิตาลีอย่างเป็นทางการด้วย

นครวาติกันวางตัวเป็นกลางมาตลอดถึงช่วงของสงครามโลกครั้งที่ ถึงแม้ว่าเยอรมันจะเข้าครอบครองโรมในช่วงต้นๆของสงคราม แต่เยอรมันก็ไม่แตะต้องนครวาติกันแต่อย่างใด ... ตลอดช่วงการเกิดสงคราม พระสันตะปาปา Pius XII ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทิ้งระเบิดกรุงโรม อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการรณรงค์ของชาวอิตาเลียนในปี 1944 ฝ่ายสัมพันธมิตรได้วางแผนที่จะทิ้งระเบิดบางส่วนของโรมและนครวาติกัน เมื่อเครื่องบินของอิตาลีเข้าโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงต่อสหราชอาณาจักร และชาวอังกฤษส่วนใหญ่มีความเห็นให้ตอบโต้ด้วยการทิ้งระเบิดกรุงโรม … แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในความคิดนี้ เนื่องจากมีชาวแคทอลิกเป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงทหารตำแหน่งสูงๆที่เป็นแคทอลิกก็มีไม่น้อยในกองทัพ … ดังนั้นเยอรมันและอังกฤษจึงเป็นเพียง ประเทศที่เข้าทิ้งระเบิดนครวาติกันในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ความคิดเห็น